8/11/2568
ผู้เช่าต้องรู้! สคบ.ประกาศ ‘คุมสัญญาเช่า’ ห้ามเก็บค่าน้ำ-ค่าไฟเกินจริง เปิด 3 วิธีร้องเรียน
สภาผู้บริโภค จับมือ สคบ. คุมสัญญาห้องเช่า เปิดสูตรคิดค่าน้ำ ค่าไฟโปร่งใส รณรงค์ให้ประชาชนรู้สิทธิก่อนทำสัญญาไม่เป็นธรรม
เชื่อว่าหลายๆ คนที่เข้ามาตามฝันในเมืองใหญ่ “ห้องเช่า” เป็นสถานที่พักอาศัยแรกที่ “แรงงานจบใหม่” มองหา วาดหวังเป็นจุดเริ่มต้นในการตั้งตัว ทว่า ค่าน้ำ-ค่าไฟ ห้องเช่าก็ทะยานไปถึง 8-10 บาทต่อหน่วย เกินกว่าราคาที่หน่วยงานรัฐอย่างการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือการไฟฟ้าส่วนภุมิภาค เรียกเก็บซึ่งเฉลี่ยไม่ถึงหน่วยละ 5 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สภาองค์กรของผู้บริโภค รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ประกาศใช้ “ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง การให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2568” มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 กันยายน 2568 เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้เช่าและสร้างมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
พรพรหม โอกุชิ ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐออกมาตรการ “เชิงรุก” มากกว่า “เชิงรับ” โดยเฉพาะการเผยแพร่ แบบสัญญามาตรฐานฉบับย่อ ให้เข้าถึงได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคตรวจสอบได้ด้วยตนเองก่อนเซ็นสัญญา
“ทุกวันนี้มีประกาศคุมสัญญาแล้ว แต่คนเช่าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามีสิทธิอะไรบ้าง ผู้ประกอบการบางรายยังใช้ช่องว่างทางกฎหมายสร้างภาระให้ผู้บริโภค เราจึงเสนอให้รัฐจัดทำคู่มือเช็กสิทธิหอพัก และเผยแพร่สัญญามาตรฐานผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของรัฐ” พรพรหมกล่าว
ทั้งนี้ สภาผู้บริโภค ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเสนอแนวทางการคำนวณค่าสาธารณูปโภคเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมทั้งต่อผู้เช่าและผู้ประกอบการ ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอร่วมกันในที่ประชุมหารือที่ สคบ.ได้จัดขึ้นในวันที่ 24 และ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ดังนี้
สูตรคำนวณอัตราค่าบริการกระแสไฟฟ้า
สูตรคำนวณอัตราค่าบริการน้ำประปา
โดย เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 สคบ.ได้จัดเวทีซักซ้อมความเข้าใจประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง การให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2568 เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการบังคับใช้ “ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง การให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2568” โดยสาระสำคัญของกฎหมายใหม่มีดังนี้
– ห้ามเรียกเก็บค่าน้ำ ค่าไฟเกินกว่าอัตราที่การไฟฟ้าและการประปากำหนด พร้อมจัดทำ “สูตรคำนวณมาตรฐาน” ให้ใช้ทั่วประเทศ
– ต้องระบุสูตรคำนวณอย่างชัดเจนในสัญญา
– ห้ามเรียกเก็บเงินประกันหรือค่าเช่าล่วงหน้าเกิน 3 เดือน
– ข้อความใดในสัญญาที่ฝ่าฝืนประกาศ ถือว่า “ไม่มีผลทางกฎหมาย”
– ครอบคลุมทั้งสัญญาเช่าแบบปกติและสัญญาเช่าแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์)
สำหรับสูตรคำนวณมาตรฐาน ที่สคบ. จะประกาศนั้น สอดคล้องกับข้อเสนอของสภาผู้บริโภค และเป็นไปตามข้อสรุปที่ประชุมหารือที่ สคบ.ได้จัดขึ้นในวันที่ 24 และ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา
ภายใต้ประกาศฉบับใหม่ หากผู้ประกอบการกำหนดเงื่อนไขในสัญญาที่ขัดต่อข้อกำหนดของ สคบ. เช่น เก็บค่าไฟเกินจริง หรือเรียกเก็บเงินประกันล่วงหน้าเกิน 3 เดือน แม้ผู้เช่าจะเซ็นยินยอม ก็ถือว่าไม่มีผลทางกฎหมาย นั่นหมายความว่า ผู้เช่าสามารถใช้ประกาศฉบับนี้เป็น “เกราะคุ้มกัน” ทางกฎหมายได้
สคบ.เตรียมเผยแพร่ “แบบสัญญามาตรฐานหอพัก” ให้ดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัดให้คำปรึกษาเรื่องสัญญาเช่า โดยมีเป้าหมายให้ภายในปี 2569 หอพักทั่วประเทศต้องใช้สัญญารูปแบบเดียวกัน
สำหรับ ผู้เช่าที่โดนเอาเปรียบ สภาผู้บริโภคแนะนำ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับผู้เช่าหอพัก ดังนี้
1. ตรวจสอบสัญญา ต้องมีอัตราค่าน้ำ–ค่าไฟ ระบุวิธีคำนวณชัดเจน
2. เก็บหลักฐาน เก็บใบเสร็จและรูปมิเตอร์ไว้ทุกครั้ง เพื่อใช้ยืนยันหากถูกเก็บเกินจริง
3. ร้องเรียนทันที หากพบการเก็บเกินราคาหรือมีสัญญาไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของสภาผู้บริโภค หรือ โทรสายด่วน 1502
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาผู้บริโภค ระบุว่า ระหว่างเดือนตุลาคม 2565 – มิถุนายน 2567 มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย 138 กรณี (12.63%) โดยมากกว่าครึ่งเป็นปัญหาหอพัก ห้องเช่าที่เรียกเก็บค่าน้ำค่าไฟแพงเกินจริง ซึ่งผู้เช่าส่วนใหญ่เป็น นักเรียน–นักศึกษา 88.9% กลุ่มที่มีรายได้จำกัดและแทบไม่มีอำนาจต่อรองในตลาดเช่าที่อยู่อาศัย
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่า “ความไม่เป็นธรรม” ในระบบการเช่าที่พักยังคงฝังรากลึกในชีวิตคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ห้องเช่าและอพาร์ตเมนต์กลายเป็นบ้านหลังที่สองของคนวัยเรียนและวัยทำงาน ปัญหาเหล่านี้จึงต้องอาศัยกลไกทางกฎหมายเพื่อสร้างความสมดุลและคุ้มครองผู้เช่าจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ
ภายใต้แรงกดดันจากเสียงร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ประกาศใช้ “ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง การให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2568” มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 กันยายน 2568 เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้เช่าและสร้างมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5447597