Dahua ด้าหัว เทคโนโลยี ทุ่ม 35 ล้านเปิดโชว์รูมเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้าหัว เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ทุ่มงบกว่า 35 ล้านบาท เปิดโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นที่ประเทศไทย ด้วยการจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยโซลูชันเอไอโอที (AIoT) ที่ผสมผสานปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Internet of Thing (IoT) เพื่อเป้าหมายสู่สังคมที่ปลอดภัยและชีวิตที่ดีขึ้น บริษัท ด้าหัว เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการบริการและโซลูชันเอไอโอที (AIoT) ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Internet of Thing (IoT)ที่เกี่ยวกับวิดีโอ และมีผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่กล้องวงจรปิด ระบบเตือนภัย ระบบควบคุมการเข้า-ออก ไปจนถึงระบบจัดการวิดีโออัจฉริยะ รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำด้านบริการ OEM และ ODM แก่บริษัทผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยต่างๆ ทั่วโลก ปัจจุบันด้าหัวได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยกว่า 18 ปีแล้ว ด้วยบุคลากรคนไทยกว่า 70% จนล่าสุดได้เปิดโชว์รูมโซลูชัน AIoTที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นอย่างเป็นทางการที่ บริษัท ด้าหัว เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ชั้น 29 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ถนนรัชดาภิเษก 

หยู ฉีจวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ด้าหัว เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดโชว์รูม ด้าหัว เทคโนโลยี ประเทศไทย (Dahua Technology Thailand Showroom) ซึ่งเป็นโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ขนาด 26 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 35 ล้านบาท ภายในโชว์รูมจัดแสดงโซลูชันอันทันสมัย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของสังคมที่ปลอดภัยและชีวิตที่ดีขึ้น ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ (Smart City) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) อาคารอัจฉริยะ ( Smart Building) การจราจรและการจอดรถอัจฉริยะ (Smart Parking & Traffic) โทรศัพท์อัจฉริยะ (Smart Mobile) ค้าปลีกอัจฉริยะ (Smart Retail) และธนาคารอัจฉริยะ (Smart Banking) 

สำหรับตัวอย่างโซลูชันของเมืองดิจิทัลหรือเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เราเน้นที่เมืองปลอดภัยเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มความปลอดภัยในเมือง ดังนั้น เนื้อหาของพื้นที่จัดนิทรรศการนี้จึงเกี่ยวข้องกับการใช้ความสามารถในการรับรู้ส่วนหน้าและการวิเคราะห์ส่วนหลังอันทรงพลังเพื่อนำเสนอแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเมือง โดยใช้กล้องวงจรปิดอันทันสมัยและโซลูชันที่ผสมผสานปัญญาประดิษฐ์หรือ AIของด้าหัว ทำให้เมืองมีความปลอดภัยมากขึ้นและบังคับใช้กฎหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 

ส่วนการจราจรอัจฉริยะ ( Smart Traffic) ที่จะช่วยให้ลดอุบัติเหตุ ในการจราจรในเมือง ได้แก่ ยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ และคนเดินถนน เพราะมุ่งไปที่การละเมิดกฎจราจรที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยจับภาพการละเมิดกฎจราจรเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ สามารถตรวจจับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเน้นที่การตรวจจับการใช้เข็มขัดนิรภัยและการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ รวมถึงการใช้หมวกกันน็อคและการบรรทุกเกินพิกัดอีกด้วย 

ด้านอาคารอัจฉริยะ (Smart Building) ด้าหัวมีกล้องจดจำใบหน้าสามารถตรวจจับการสัญจรของรถยนต์และคนเดินเท้าได้โดยไม่รู้สึกตัว และใช้กล้องตรวจจับพื้นที่จอดรถและระบบนำทางเพื่อดูแลพื้นที่จอดรถและนำทางพื้นที่ที่เหลืออย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างระบบนำทางยานพาหนะภาคพื้นดินโดยอิงตามการจัดการกริด โซลูชันนี้ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่จอดรถหลายพื้นที่บนพื้นที่ได้อย่างชาญฉลาดแบบเรียลไทม์ 

นอกจากนี้ ด้าหัวยังได้เปิดตัว City Operation Center แพลตฟอร์มที่ได้ร่วมมือกับกล้องวงจรปิด เพื่อวิเคราะห์เพศและระบุเสื้อผ้า สีผ้า ให้สามารถตามจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงที และ Smart Mobile ที่สามารถระบุสถานที่ของรถแบบเรียลไทม์ พร้อมตรวจจับพฤติกรรมของคนขับ และตรวจนับจำนวนคนที่ขึ้นรถ เพื่อป้องกันหรือลดการลืมผู้โดยสาร รวมถึงมีกล้องในการตรวจจับบุคคลที่ยืนใกล้ทางออกขึ้น-ลงรถ เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน Smart Mobile กำลังติดตั้งบนรถของ บริษัท ขนส่ง จำกัด ทั่วประเทศไทยกว่า 3,000 พันคัน “ไม่เพียงแต่โซลูชันภายในอาคารและในรถเท่านั้น ด้าหัวยังมีโซลูชันในร้านค้าปลีกที่เรียกว่า Smart Retail ที่สามารถสอดส่องจำนวนคิวของลูกค้า พร้อมป้ายราคาสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ , จอ LED โฆษณาสินค้าบริเวณชั้นวางของ และการระบุจำนวนคนที่ผ่านหน้าร้านในแต่ละวัน เพื่อตอบโจทย์ร้านค้าสมัยใหม่ด้วยกระบวนการอัจฉริยะครบวงจร หยู กล่าวถึงทิศทางของบริษัทฯว่า ด้าหัว เทคโนโลยี ได้ยกระดับกลยุทธ์องค์กรที่เรียกว่า Dahua Think# 2.0 จาก “Intelligence” เป็น “Integrated Intelligence” สำหรับธุรกิจเมือง (City Business) บริษัทฯยังคงส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงจากการจัดการเมืองที่ดีขึ้นไปสู่การกำกับดูแลเมืองที่มีประสิทธิภาพ จากการดำเนินการที่เป็นระเบียบไปสู่การเป็นอิสระในการดำเนินงาน จากความปลอดภัยสาธารณะที่เพิ่มขึ้นไปสู่ระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการยกระดับ และจากการตรวจสอบสภาพแวดล้อมทางนิเวศไปสู่การกำกับดูแลร่วมกันทางนิเวศ สำหรับธุรกิจองค์กร (Enterprise Business) ด้าหัว ได้เปลี่ยนจากการปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมไปสู่การสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไปสู่การสร้างกำลังการผลิตดิจิทัลอัจฉริยะ และจากการช่วยเหลือในการจัดการไปสู่การเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจ

การเปิดเปิดโชว์รูมเทคโนโลยีเกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะนี้ ผู้บริหารกล่าวว่า คาดหวังว่าจะสามารถดันยอดขายให้ถึงเป้าหมายที่ 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.6 พันล้าน ซึ่งในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนั้น ด้าหัว มีได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ต่างๆ ไปยังพาร์ทเนอร์ผู้ขายโซลูชันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีแผนที่จะเข้ามาเปิดโรงงานผลิตอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงยังไม่มีการเปิดให้บริษัทผู้ผลิตในไทยมีโอกาสได้ร่วมผลิตอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนสำหรับโซลูชันเมืองอัจฉริยะ